มีใครวางแผนจะไปเที่ยวประเทศอิตาลีกันบ้าง บอกเลยว่าคุณคิดไม่ผิดอย่างแน่นอน เพราะอิตาลีจะทำให้คุณตกหลุมรักหัวปักหัวปำราวกับคนที่คุณโปรดปราน นอกจากจะได้ลิ้มรสไวน์รสชาติแสนเลอค่าแล้ว ยังมีศิลปะและสถาปัตยกรรมแปลกตามากมายให้ได้ชม บอกเลยว่า สิ่งเหล่านี้ประเมินค่าไม่ได้แน่นอนหากเทียบกับค่าตั๋วเครื่องบินของคุณ ถ้าไม่เชื่อ ลองมาเยือน 3 เมืองต้องมนต์ในอิตาลี นี้ดู แล้วคุณจะรู้ว่าที่พูดอาจจะยังน้อยเกินไป
1.โรม
แค่ได้ยินชื่อก็ชวนให้นึกถึงสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก อย่าง โคลอสเซียม โบสถ์ซิสทีนหรือวาติกัน ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่กว่า 28 ศตวรรษ ทำให้โรมเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดในยุโรปที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ (และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในอิตาลีที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม)
โรม ได้รับการขนานนามว่าเป็น“ เมืองนิรันดร์” จากชาวโรมันโบราณ เพราะพวกเขาเชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในส่วนที่เหลือของโลก เมืองโรม จะยังคงอยู่เสมอ นอกจากนี้ โรม ยังเป็นเมืองที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสถานที่ทางประวัติศาสตร์ กับถนนจตุรัสซึ่งตั้งอยู่บน ถนนใหญ่ 4 แห่ง และย่านใกล้เคียงที่มีเสน่ห์ของตนเอง เช่น พิพิธภัณฑ์ระดับโลกและสถานที่อื่น ๆ ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เช่น วิหารแพนธีออน น้ำพุเทรวี และพิพิธภัณฑ์บอร์เกเซ เป็นต้น รับรองว่าคุณจะต้องตกหลุมรักเมืองที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามและเป็นเมืองใหญ่ที่ไม่เคยเงียบเหงาแห่งนี้อย่างแน่นอน
2.ฟลอเรนท์
ฟลอเรนซ์ เมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลีและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่ทุกคนจะพลาดไม่ได้ถ้าได้มาเยือนอิตาลีเป็นครั้งแรก หากคุณเป็นคนรักศิลปะ เมืองฟลอเรนซ์ จะต้องทำให้คุณประทับใจอย่างไม่รู้ลืม ด้วยสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา และอาคารสีขาวที่มีหลังคาสีแดงตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง ท่ามกลางถนนโบราณที่คดเคี้ยว ทำให้สถานที่นี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ ยังไม่รวมถึงงานแกลอรี่ศิลปะอีกมากมาย รับรองว่าคนรักศิลปะต้องเดินกันจนล้าแน่นอน
ฟลอเรนซ์ เป็นสถานที่ศึกษายอดนิยมสำหรับนักเรียนจากต่างประเทศ ดังนั้นเมืองนี้จึงมีสถานบันเทิงยามค่ำคืนมากมาย เพลิดเพลินกับศิลปะแล้วยังเพลิดเพลินกับแสงสียามค่ำคืน หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วถ้าไม่ใช่เมืองฟลอเรนซ์แห่งนี้
3.ทัสคานี
ด้วยเมืองบนเนินเขาที่สวยงามและตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางไร่องุ่น ทำให้ทัสคานีงดงามอย่างมากประดุจเมืองในเทพนิยาย แถมทัสคานียังเป็แหล่งไวน์ชั้นดีของอิตาลีอีกด้วย ทัสคานี เป็นแหล่งสะสมผลงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ภาพวาด ประติมากรรมอันน่าทึ่ง ไปจนถึงจิตรกรรมฝาผนังและผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมอีกหลากหลายชิ้น ผู้มาทัสคานีจะได้สัมผัสประสบการณ์หลายด้านในเมือง ๆ เดียว ไม่ว่าจะงานศิลปะสุดล้ำ บรรยากาศชนบทที่แสนสวยงามของ
ทัสคานี และยังเอาใจนักชิมและผู้ชื่นชอบไวน์ทั้งหลาย เพราะเมื่อเดินทางมาที่ทัสคานีแล้ว จะได้เพลิดเพลินกับอาหารและไวน์ที่แสนอร่อย เสร็จแล้ว ก็ออกไปเพลิดเพลินกับการปั่นจักรยานไปตามเนินเขาที่สวยงามแห่งนี้ รับรองว่าเมืองทัสคานี จะเปลี่ยนการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนของคุณ ให้กลายเป็นความทรงจำที่คุณนึกถึงครั้งไหนก็จะต้องมีความสุข
ภาพหมู่บ้านที่แสนโรแมนติก และฟาร์มที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามโดยมีต้นไซเปรสยืนเรียงรายไปตามถนนเกือบทุกหนทุกแห่งของทัสคานี จะทำให้คุณหลงมนต์สเน่ห์ของชนบทแห่งนี้จนไม่อยากกลับที่พักเลยทีเดียว แต่หากคุรชื่นชมธรรมชาติที่รายล้อมด้วยภูเขามากพอแล้ว ก็ข้ามมาที่ตอนใต้ของ
ทัสคานี มาสัมผัสกับชายหาดสีทองและน้ำทะเลสีฟ้าใส ของแนวชายฝั่งมาเรมม่า ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นชายฝั่งทะเลที่สะอาดที่สุดในอิตาลี กระโจนลงน้ำทะเลสีใส แหวกว่ายดูปะการังแล้วขึ้นมาจิบไวน์ต่อ คงเป็นกิจกรรมที่ใคร ๆ ต้องอิจฉา ดังนั้น หากมาอิตาลี ให้ ทัสคานี เป็นอีกหนึ่งในเมืองที่คุณต้องมา เพราะหากไม่มา พูดได้ว่าคุณพลาดมาก ๆ แน่นอน
เดินทางไปต่างประเทศได้เมื่อไร รีบจองตั๋วไปเยือน 3 เมืองต้องมนต์ในอิตาลี กันได้เลย หวังว่าทุกคนจะได้เดินทางในเร็วๆ นี้
loadoffun เว็บไซต์แนะนำ จุดเช็คอิน ที่เที่ยว ร้านกาแฟ ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ท่องเที่ยว ทั่วประเทศ เที่ยวต่างประเทศ แนะนำที่พัก แนะนำโรงแรม ที่เราจะมา รีวิว ให้ทุกท่านเหมือนกับได้ไปเที่ยวเอง ในแบบ เที่ยวทั่วไทย เที่ยวทั่วโลก เพื่อเป็นแนวทางสำหรับทุกท่านว่า ไปกิน ไปเที่ยวที่ไหนดี
ขอบคุณภาพประกอบบทความ pexels.com